ไดตะลุยแดนเวทย์มนต์ ผลผลิตแห่งการเติบโตของ Square Enix



เชื่อได้ว่า “ไดตะลุยแดนเวทมนตร์” ย่อมเป็นหนึ่งในการ์ตูนในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน เพราะมันคือการเล่าเรื่องของเกม RPG อย่าง Dragon Quest เกมสุดโด่งดังที่ได้รับการออกแบบตัวละครจากลายเส้นของอาจารย์โทริยามะ ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนเส้นเลือดหลักของญี่ปุ่นอย่างดราก้อนบอลนั่นเอง แต่ความเป็นไดนั้นได้ผสานความเป็นตัวเองกับกลิ่นอายความเป็น RPG ระดับพรีเมี่ยมไว้ได้อย่างกลมกล่อมจนได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายเลยทีเดียว

จุดเริ่มต้นออกเดินทางของได

ไดตะลุยแดนเวทมนตร์ ปรากฏตัวต่อสายตาขาวโลกผ่านมังงะหรือที่เรียกกันว่าการ์ตูนช่องได้อย่างถึงรสถึงชาติเมื่อปี พ.ศ.2532 โดยริคุ ซันโจ และเมื่อปีที่แล้วที่ได้มีข่าวว่าทางค่ายจะนำการ์ตูนเรื่องนี้มารีเมคเป็นอนิเมะด้วยภาพแบบใหม่ไฉไลกว่าเดิม และนี่คือการส่งสัญญาณของค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Square Enix ให้สาวกเตรียมตัวกับโปรเจคเกมครั้งใหญ่อีกด้วย

อย่างที่รู้กันดีอยู่ว่าซีรีส์ Dragon Quest เป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าจะออกภาคไหน ออกมากี่ภาค ก็ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นอย่างล้นหลามมาเป็นเวลานานหลายสิบปี กระทั่งการ์ตูนที่ถูกเขียนขึ้นเองก็มียอดขายหลักหลายสิบล้านเล่มเช่นกัน อย่างที่ “ไดตะลุยแดนเวทมนตร์” เคยทำไว้ได้ โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กหนุ่มผู้กล้าที่อยู่ในโลกของ Dragon Quest ที่อิงชื่อของเวทมนตร์และสัตว์ประหลาดต่าง ๆ มาใส่ไว้

แต่ถึงแม้ Dragon Quest จะออกมาหลายภาคแล้วก็ตาม แต่หนุ่มน้อยไดก็ยังไม่เคยได้อวดโฉมบนจอให้คนได้เล่นกันเสียที พักหลัง ๆ มานี้ Square Enix เน้นเรื่องการนำเกมเก่ากลับมาปรับโฉมใหม่ ใส่กราฟิกแบบถึงใจ พร้อมปรับระบบการเล่นให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ก็ได้หยิบไดขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งตัวชูโรงของค่ายตอนนี้ เพราะจัดหนักจัดเต็มทั้งเกมและตัวอนิเมะเลยทีเดียว

ปัจจุบัน แผนการปล่อยเกมของ Square Enix มีด้วยกัน 3 ภาคในครั้งเดียว คือภาค Xross Blade ที่เป็นเกมอาร์เคดที่เล่นผ่านตู้ Tamashii no Kizuna เป็น RPG ที่กำลังจะลงให้กับโทรศัพท์มือถือ และเกมฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่างภาค Infinity Strash ก็ตั้งใจจะลงให้กับแพลตฟอร์มคอนโซลนั่นเอง

การกลับมาอีกครั้งของได

เรียกได้ว่าการกลับมาของ “ไดตะลุยแดนเวทมนตร์” คือการต่อยอดผลพวงแห่งความสำเร็จในอดีตที่เป็นรูปธรรมจากทางค่าย เพราะครั้งที่ยังเป็นการ์ตูน หนุ่มน้อยไดก็ได้รับความนิยมไปไม่น้อยกว่าการ์ตูนในตำนานหลาย ๆ เรื่อง ฉะนั้นแล้วจึงไม่เป็นเรื่องแปลกอะไรเลยที่ทางซีรีส์ Dragon Quest จะมาจับมือกับไดเพื่อพัฒนาเกมภาคใหม่จนเป็นที่จับจ้องของชาวเกมเมอร์ ที่จะได้ลองเล่นกันในเร็ววันนี้ เรียกทั้งแฟนเกมหน้าใหม่และเหล่าขาจร กับแฟนเกมยุคเก่าที่รอคอยการกลับมาของการ์ตูนในดวงใจ ให้มารอชมอนิเมะโฉมใหม่ กับคอมโบเกมน่าเล่นที่กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ของแฟรนไชน์ Dragon Quest นี้เอง

เครดิตภาพ : https://images.app.goo.gl/GoDACmYmApArsLDN6